Gravityzone Security For
Virtualized Environments

การป้องกันที่ได้รับรางวัลสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์
และคลาวด์

การรักษาความปลอดภัยสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน แบบ next-gen

 

การเปลี่ยนแปลงโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วม, รูปแบบธุรกิจที่ทำงานบน cloud และ ความกดดันเรื่องการนำธุรกิจเข้าสู่ตลาดให้รวดเร็วทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับองค์กร เพื่อให้องค์กรตามทันโลกที่เปลี่ยนแปลง ไอทีจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองจากคนที่คอยควบคุมดูแลเป็นคนจัดหาบริการที่ช่วยให้โอกาสทางธุรกิจเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว ดาต้าเซ็นเตอร์ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของการพัฒนาด้านไอที ถูกพัฒนาเพื่อให้ทรัพยากรด้านการคำนวณ, ด้านพื้นที่เก็บข้อมูลและเครือข่ายมีประสิทธิภาพ แต่มีความยืดหยุ่นสูงซึ่งจำเป็นสำหรับการสนับสนุนธุรกิจ

ดาต้าเซ็นเตอร์ยุคใหม่นี้ต้องการแนวทางใหม่ในการรักษาความปลอดภัย ดังนั้น Bitdefender GravityZone จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องโครงสร้างแบบ software-defined, hyperconverged และ cloud ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความคล่องตัว,ประสิทธิภาพและความรวดเร็ว อ่านเอกสารทางเทคนิคจาก IDC® “Hybrid Architectures Drive New Requirements for Security” เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีดาต้าเซ็นเตอร์ที่เปลี่ยนแปลง, ความกังวลที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและแนวทางเฉพาะของ GravityZone ในการจัดการกับพวกเขา.

Software-Defined Datacenter

สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพการดำเนินงานของ Software Defined Infrastructure GravityZone มอบการจัดสรรอัตโนมัติแบบว่องไวการจัดการแบบรวมศูนย์และการผนวกรวมอย่างลึกซึ้งกับ VMware, Citrix, Nutanix และ Software Defined Datacenter อื่นๆ

Hyperconverged Infrastructure

เมื่อติดตั้งบน Nutanix และ HCIs อื่น GravityZone ให้ความสามารถในการจัดการที่คล่องตัว, เพิ่มจำนวนของ virtual ได้มากขึ้นรวมถึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อมีการเพิ่มจำนวน GravityZone เซิฟเวอร์ ประสิทธิภาพก็เพิ่มตามจำนวนเซิฟเวอร์ด้วยและสนับสนุนสภาพแวดล้อมแบบ virtualization ที่ต่างกันจากการติดตั้งครั้งเดียว.

Hybrid Cloud

ในสภาพแวดล้อม  cloud แบบผสม (AWS®และ Microsoft Azure®), GravityZone ช่วยให้การจัดการนโยบายความปลอดภัยที่สอดคล้องกัน, บริหารจัดการจากหน้าจอเดียว, การรายงานการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการป้องกันอย่างต่อเนื่องขณะที่ VM ย้ายไปยัง cloud

คุณสมบัติและผลประโยชน์ที่ได้จาก Bitdefender

ได้รับรางวัลเครื่องมือป้องกันแบบ Next-generation

GravityZone ได้รับการจัดอันดับสูงสุดอย่างต่อเนื่องในการทดสอบอิสระเพื่อประสิทธิภาพต่อต้านภัยคุกคามขั้นสูงและมีการตรวจสอบที่ผิดพลาดน้อย.

AWARD-WINNING NEXT-GENERATION PROTECTION

การป้องกันหลายชั้นแบบ NEXT-GENERATION

GravityZone ใช้การ application control, patch management, machine learning ที่สามารถปรับแต่งตัวเองได้, sandbox เครือข่ายและเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อลดส่วนที่สามารถโจมตีได้, ตรวจจับ, ตรวจสอบและแก้ไขภัยคุกคามทั้งที่เคยเจอและไม่เคยเจอ.

มี PATCH MANAGEMENT ช่วยจัดการเรื่องการอัปเดต
ยกระดับการป้องกันด้วยการจัดการแพทช์ GravityZone ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของโครงสร้างพื้นฐานให้การค้นพบอัตโนมัติและการจำแนกลักษณะของช่องโหว่และแพทช์ที่ครอบคลุมที่สุดสำหรับระบบปฏิบัติการ, แอพพลิเคชั่นและ golden image 

เหมาะสมพอดีกับ virtual และ cloud ของคุณ

GravityZone uniquely supports all datacenter environments, whether they are built on VMware® ESXi, Microsoft® Hyper-V, Citrix® XenServer, Nutanix AHV, KVM, RedHat® Enterprise Virtualization, or any other virtualization solution. Plus, it is compatible with multiple cloud IaaS platforms, such as AWS® and Azure®. Importantly, GravityZone can protect multiple hypervisors, clouds and guest OSs from the same deployment, making it the optimal cloud-workload security solution for heterogeneous hybrid environments.GravityZone สนับสนุนสภาพแวดล้อมดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งหมดไม่ว่าจะสร้างบนVMware® ESXi, Microsoft® Hyper-V, Citrix® XenServer, Nutanix AHV, KVM, RedHat® Enterprise Virtualization หรือโซลูชัน virtualization อื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์ม IaaS บนคลาวด์หลายแห่งเช่น AWS® และ Azure® ที่สำคัญ GravityZone สามารถปกป้อง hypervisor ได้หลากหลาย, cloud และระบบปฏิบัติการเกสต์ รับรองจากการปรับใช้เดียวกันทำให้เป็นโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ที่เหมาะที่สุดสำหรับสภาพแวดล้อมไฮบริดที่ต่างกัน

 

การดำเนินงานด้านความปลอดภัยที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพ

GravityZone เป็นโซลูชันแบบใช้  agent เดียวคอนโซลเดียวรวมการจัดการความปลอดภัยช่วยให้มองเห็นได้อย่างครอบคลุมและบังคับใช้นโยบายที่สอดคล้องกันทั่วทั้งระบบคลาวด์และระบบที่ใช้งานภายในองค์กร.

AGILE AND EFFICIENT SECURITY OPERATIONS

 

มีความคล่องตัวด้วยระบบอัตโนมัติ

GravityZone ทำให้การติดตั้งและทำให้ขั้นตอนความปลอดภัยเป็นอัตโนมัติผ่านการรวมเข้ากับเครื่องมือการจัดการโครงสร้างพื้นฐานเช่น AWS EC2, Citrix® XenServer, Nutanix® Prism และVMware® vCenter Server

AGILITY THROUGH AUTOMATION

ใช้งานโครงสร้างพื้นฐานอย่างเต็มประสิทธิภาพและ.ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงสุด

ใช้สถาปัตกรรมที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
สร้างขึ้นสำหรับสภาพแวดล้อมเสมือนจริงและระบบคลาวด์ GravityZone ใช้ชุดเครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่มีขนาดเล็กแทนที่ agent แบบเก่าที่มีขนาดใหญ่ งานที่ใช้ทรัพยากรมากจะถูกส่งไปยัง Security Virtual Appliance (SVA) ที่เจาะจง ซึ่งดำเนินการวิเคราะห์ภัยคุกคามจากส่วนกลางและยังคงขั้นตอนวิธีการตรวจสอบสำหรับหลาย VMs และลดความซ้ำซ้อนในการตรวจสอบ การถ่ายโอนการสแกนไปยังส่วนกลางร่วมกับอัลกอริทึมการแคชที่จดสิทธิบัตรและการวิเคราะห์พฤติกรรมช่วยลดการใช้งานทรัพยากรโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยได้

สามารถใช้งาน Virtualization ได้มากขึ้น 35%

GravityZone offloads resource-intensive tasks to a dedicated security server, freeing CPU, memory, I/O, and network capacity to allow more virtual machines on each hostGravityZone จะถ่ายโอนงานที่ใช้ทรัพยากรจำนวนมากไปยังเซิร์ฟเวอร์ความปลอดภัยโดยเฉพาะ ทำให้สามารถใช้งาน CPU, หน่วยความจำ, I/O และเครือข่ายเพื่อให้ใช้ virtual machine ได้มากขึ้นในแต่ละเซิฟเวอร์.

 

โครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้งาน

บูทเข้าใช้งานได้เร็ว, เข้าใช้งานได้ง่าย และ  ตอบสนองกับแอพพลิเคชันได้เร็ว
GravityZone ลดขนาดของตัวเองใน VM ด้วย agent ที่เล็กและเบา การตรวจจับพฤติกรรมมัลแวร์ที่ได้รับสิทธิบัตร และอัลกอริธึมการเก็บข้อมูลที่ให้งานทรัพยากรน้อยลง ทำให้แอพพลิเคชันสามารถใช้งาน CPU, memory และ IOPS ได้มากขึ้น ลดเวลาในการตอบสนอง และพัฒนาให้ใช้งานได้ง่ายสำหรับผู้ใช้งาน

เพิ่มขนาดได้และมีความยืดหยุ่นในระดับชั้นนำ

เพิ่มขนาดได้อย่างไม่จำกัด
GravityZone’s modular web-scale architecture provides the scalability to secure carrier-grade deployments. The platform can expand on demand in a linear and efficient fashion by adding Security Virtual Appliances (SVA) or multiplying Control Center server roles, if requiredสถาปัตยกรรมแบบ web-scale และแยกเป็นส่วนๆของ GravityZone มอบความยืดหยุ่นในการติดตั้งเพื่อความปลอดภัยในระดับชั้นนำ แพลตฟอร์มสามารถขยายตามความต้องการและมีประสิทธิภาพโดยการเพิ่ม Security Virtual Appliance (SVA) หรือการเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ Control Center ได้ถ้าจำเป็น.

ความพร้อมในการใช้งานสูงและมีความยืดหยุ่น
การออกแบบของแพลตฟอร์ม GravityZone (ขึ้นอยู่กับหลายฐานข้อมูล, การสื่อสารและเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่มีระบบการทดแทนในตัว) ทำให้มั่นใจได้ถึงความยืดหยุ่นที่แท้จริง นอกจากนี้การกระจายการทำงานตามนโยบายแบบอัตโนมัติทั่วทั้ง SVA จะช่วยลดการใช้งานไม่ได้ของระบบจากการใช้งานไม่ได้จากจุดเดียวในระบบ ทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยที่ต่อเนื่องและความพร้อมใช้งานสูง (กำหนดค่าและควบคุมจากคอนโซลเดียว)

เป็นการลงทุนเรื่องความปลอดภัยที่มีผลตอบแทนสูง

ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
GGravityZone รวมทุกอย่างที่คุณต้องการในการติดตั้งและเรียกใช้งานโซลูชันความปลอดภัยโดยไม่จำเป็นต้องซื้อสิทธิ์ใช้งานฐานข้อมูลเพิ่มเติม

มีตัวเลือกในการคิดค่าใช้จ่ายตามจำนวน CPU
เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้งานทรัพยากรเยอะ เช่นโครงสร้างพื้นฐานแบบ virtual desktop (VDI) GravityZone เสนอการคิดค่าใช้จ่ายตาม CPU ซึ่งให้การประหยัดกว่าเมื่อเทียบกับการคิดค่าใช้จ่ายตาม VM.

มีหน้าจอการบริหารจาก Cloud ได้
To save you financial and technical resources on maintaining the GravityZone Control Center, Bitdefender provides hosting and upgrades to the cloud console at no extra chargeเพื่อช่วยให้คุณประหยัดทรัพยากรทางการเงินและทางเทคนิคในการบำรุงรักษา GravityZone Control Center, Bitdefender จัดหาและอัปเกรดเป็นการบริหารจัดการจากคลาวด์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม.

Resources

WHITEPAPER ESG “AN ADAPTIVE AND LAYERED APPROACH TO ENDPOINT SECURITY”

 

ความต้องการขั้นต่ำสำหรับแพลตฟอร์มการป้องกัน Endpoint แบบ Next Generation

แนวทางที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันระบบบน cloud โดย GARTNER

เซิร์ฟเวอร์ใน Datacenter แบบระบบ cloud ภายในองค์กรและระบบ cloud สาธารณะต้องใช้กลยุทธ์การป้องกันที่แตกต่างจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งาน ผู้นำด้านความปลอดภัยและการบริหารความเสี่ยงควรประเมินและนำเสนอข้อเสนอที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการป้องกันปริมาณงานบนคลาวด์

ผลกระทบของความปลอดภัยในระบบ virtualization บนสภาพแวดล้อมของโครงสร้างพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์แบบ virtual (VDI) ของคุณ

เรานำเสนอวิธีแก้ไขปัญหาความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อทดสอบว่าพวกเขาส่งผลกระทบต่อการใช้งานทรัพยากรของ virtualization  และเวลาตอบสนองของแอพพลิเคชัน

Testimonial

Barnsley Council ยกระดับความปลอดภัยของดาต้าเซ็นเตอร์ด้วย Bitdefender GravityZone

Additional Protection Layers and Services

1

PATCH MANAGEMENT

ระบบที่ไม่ได้อัปเดตเพื่อปิดช่องโหว่จะถูกโจมตีจากมัลแวร์และอาจมีข้อมูลรั่วไหลได้ ดังนั้นเราแนะนำให้ทำการอัปเดต OS และ แอปพลิเคชันของคุณเพื่อปิดช่องโหว่เหล่าน้้น โดย Bitdefender มีบริการที่ช่วยจัดการได้ คือ GravityZone Patch Management ซึ่งสามารถทำได้ทั้งคอมพิวเตอร์ในสำนักงาน เซิฟเวอร์ และ เซิฟเวอร์เสมือนได้

Download Datasheet  >

2

GRAVITYZONE FULL DISK ENCRYPTION

GravityZone FDE ใช้สำหรับปกป้องข้อมูลฮาร์ดไดรฟ์ทั้งหมดในคอมพิวเตอร์โดยใช้กลไกการเข้ารหัสที่จัดทำโดย Windows (BitLocker) และ Mac (FileVault) GZ FDE ใช้ประโยชน์จากการเข้ารหัสอุปกรณ์ของระบบปฏิบัติการเพื่อให้มั่นใจว่ามันสามารถทำงานได้และประสิทธิภาพสูงสุด GZ FDE รวมอยู่ใน GravityZone Console และ Agent โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งเพิ่มเติมและไม่จำเป็นต้องติดตั้งเซิร์ฟเวอร์การจัดการคีย์ การใช้โครงสร้างและ Agent เดียวในการจัดการ FDE ช่วยให้การติดตั้งจากส่วนกลางทำได้ง่ายและใช้เวลาน้อยในการติดตั้ง
Read more  >

3

PROFESSIONAL SERVICES

ผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยคุณติดตั้งและกำหนดค่าโซลูชัน Bitdefender ของคุณเพื่อการปกป้องและประสิทธิภาพที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ บริการเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญตลอดกระบวนการดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าการเริ่มต้นจะราบรื่นและปราศจากปัญหา วิศวกรของ Bitdefender มีทักษะจะปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดและคำนึงถึงความต้องการทางธุรกิจของคุณในขณะที่ช่วยคุณติดตั้งโซลูชันความปลอดภัยได้

การทำงานร่วมกันระหว่าง GravityZone  และ VMware NSX-T Data Center

Documentation

คู่มือการติดตั้ง GRAVITYZONE

คู่มื่อการติดตั้ง GravityZone แนะนำข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการติดตั้ง GravityZone ในองค์กรของคุณ

คู่มือการใช้งาน GRAVITYZONE สำหรับผู้ดูแลระบบ

คู่มือการใช้งาน GRAVITYZONE สำหรับผู้ดูแลระบบ ให้ข้อมูลขั้นสูงสำหรับผู้ดูแลระบบ

คู่มือการใช้งานสำหรับผู้ใช้งาน BITDEFENDER ENDPOINT SECURITY TOOLS

คู่มือผู้ใช้งาน Bitdefender Endpoint Security Tools ใช้สำหรับช่วยเหลือผู้ใช้งานในการสแกนแบบปกติและจำกัดมัลแวร์ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์

เอกสารข้อมูลสำหรับ API

แนวทางสำหรับ API  – GravityZone Control Center [On-Premises Console], แนวทางสำหรับ API – GravityZone Control Center [Cloud Console] ช่วยให้นักพัฒนาจัดทำขั้นตอนทางธุรกิจโดยอัตโนมัติด้วย Bitdefender GravityZone API

ทดลองใช้ GravityZone Security for Virtualized Environments เพื่อสัมผัสกับความปลอดภัย, การจัดการและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า