Bitdefender
Gravityzone Security
For Endpoints

หยุดภัยคุกคามขั้นสูงด้วย การรักษาความปลอดภัยแบบหลายชั้น

การป้องกันที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพที่สุด

 

GravityZone Security for Endpoints ของ Bitdefender เอาชนะภัยคุกคามขั้นสูงและซับซ้อนได้โดยใช้วิธีการแบบใหม่และปรับเปลี่ยนได้.

เทคโนโลยี machine learning ที่ได้รับสิทธิบัตรรวมกับความสามารถในการตรวจสอบพฤติกรรมและเทคนิคการตรวจจับการโจมตีทำให้ GravityZone สามารถป้องกัน, ตรวจจับและปิดกั้นภัยคุกคามที่ทั้ง antivirus แบบเก่า และแบบ next-gen ป้องกันพลาดได้

มันจะดำเนินการโดยอัตโนมัติเพื่อให้ธุรกิจทำงานตามปกติรวมถึงการย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เป็นอันตราย

วิธีการรักษาความปลอดภัยหลายชั้นแบบ Next-Gen ที่ครอบคลุม

Identify and prevent never before seen threats with comprehensive set of technologies including Machine Learning, Anti-exploit, Application and Content Control, or Process Inspectorระบุและป้องกันการคุกคามที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยชุดเทคโนโลยีที่ครอบคลุมทั้ง machine learning, anti-exploit, application and content control และ Process Inspector

ระบุภัยคุกคามได้โดยที่ไม่กระทบกับผู้ใช้งาน

Using the largest global intelligence cloud and machine learning technologies perfected in more than 10 years, Bitdefender prevents and detects threats without causing slowdowns for the usersด้วยการใช้ global intelligence คลาวด์ที่ใหญ่ที่สุดและเทคโนโลยี machine learning ที่สมบูรณ์แบบในเวลามากกว่า 10 ปี Bitdefender ป้องกันและตรวจจับภัยคุกคามโดยไม่ทำให้ผู้ใช้ช้าลง.

บริหารจัดการความปลอดภัยได้ง่าย

ติดตั้งแบบ virtual appliance และ GravityZone Control Center สามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็วและขยายขนาดได้อย่างง่ายดายเพื่อปกป้อง endpoint จำนวนมากและยังมีความสามารถทดแทนและพร้อมใช้งานได้สูง

คุณสมบัติและประโยชน์ที่ได้จาก Bitdefender

ใช้ Machine learning ช่วยในการคาดการณ์และปัองกันการโจมตีขั้นสูง

Bitdefender ใช้ประโยชน์จาก Machine Learning ในผลิตภัณฑ์ทั้งหมด Scannig engine, HyperDetect, Sandbox Analyzer, Content Control, Global Protective Network เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆน้อยๆของเทคโนโลยีที่ Bitdefender ใช้ Machine Learning

HyperDetect™ ป้องกันการโจมตีในชั้นการป้องกันแบบ pre-execution

Bitdefender HyperDetect ประกอบด้วย machine learning และเทคโนโลยีการตรวจจับการโจมตีที่มองไม่เห็น มันเป็นชั้นความปลอดภัยเพิ่มขึ้นมา และออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อตรวจจับการโจมตีขั้นสูงและกิจกรรมที่น่าสงสัยในขั้นตอน pre-execution

Sandbox Analyzer ช่วยเพิ่มการตรวจจับการโจมตีแบบระบุเป้าหมายได้ดีขึ้น

Bitdefender Sandbox Analyzer ให้การตรวจจับในระดับ pre-execution ของการโจมตีขั้นสูงโดยการส่งไฟล์ที่ต้องการการวิเคราะห์เพิ่มเติมไปยัง cloud sandbox โดยอัตโนมัติและดำเนินการแก้ไขตามการวิเคราะห์

Process Inspector ช่วยตรวจจับและหยุดการโจมตีแบบไม่ใช้ไฟล์ได้

Process Inspector ของ Bitdefender เป็นเทคโนโลยีตรวจจับความผิดปกติของพฤติกรรมที่ให้การป้องกันภัยคุกคามที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในชั้นการป้องกันแบบ on-execution

ควบคุมคอมพิวเตอร์และทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น

คุณสมบัติหลายอย่างนั้นทำงานร่วมกันเพื่อส่วนที่ถูกโจมตีได้: Patch Management, Full Disk Encryption, Web Threat Protection, Firewall, Application Controlและ Device Control

Advanced Anti-exploit

ชั้นการป้องกันในระดับหน่วยความจำของ Bitdefender ป้องกันการบุกรุกช่องโหว่ที่รู้จักและไม่รู้จักที่กำหนดเป้าหมายไปยังเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันในขั้นตอน on-execution.

ประโยชน์ที่ได้จาก Bitdefender

ตรวจจับและป้องกันครอบคลุมทั้งภัยคุกคามและมัลแวร์ที่ซับซ้อน

Elite สามารถเอาชนะภัยคุกคามขั้นสูงและมัลแวร์ที่ไม่รู้จักซึ่งหลีกเลี่ยงโซลูชันการป้องกันแบบดั้งเดิมรวมถึง Ransomware และการโจมตีขั้นสูงเช่น PowerShell, script-based, fileless attacksและมัลแวร์ที่ซับซ้อนสามารถตรวจพบและบล็อกก่อนการดำเนินการ

ตรวจจับและหยุดมัลแวร์แบบไม่ใช้ไฟล์ในการโจมตี

Fileless malware attacks จะเรียกใช้โค้ดที่เป็นอันตรายโดยตรงในหน่วยความจำ เนื่องจากไม่มีไฟล์อยู่ในดิสก์ โซลูชั่น Antivirus ที่ออกแบบมาสำหรับการวิเคราะห์ไฟล์จึงตรวจจับไม่เจอการโจมตีประเภทนี้ Bitdefender Advanced Anti-Exploit, HyperDetect™ และ Process Inspector เพื่อตรวจจับ, บล็อกและขัดขวาง fileless attacks

หยุดการโจมตีแบบใช้มาโครและแบบ Script-Based

ในกรณีนี้ผู้โจมตีไว้ใจใน MS Office Macros ที่ใช้เครื่องมือการดูแล Windows เช่น PowerShell เพื่อเรียกใช้สคริปต์และดาวน์โหลด code ที่เป็นอันตรายเพื่อการโจมตี เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือ Windows ที่“ไว้วางใจได้” ดังนั้นผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่รวมถึงผู้ให้บริการ Next-gen Antivirus ไม่ตรวจสอบสคริปต์อย่าง Powershell, WMI, ตัวแปล Javascript เป็นต้น Bitdefender เพิ่มเทคนิค Command-Line Analyzer เพื่อสกัดกั้นและรักษาความปลอดภัยสคริปต์ การแจ้งเตือนผู้ดูแลระบบและการบล็อกสคริปต์ไม่ให้ทำงานหากดำเนินการตามคำสั่งที่เป็นอันตราย

แก้ไขภัยคุกคาม จัดเก็บและตอบสนองแบบอัตโนมัติ

เมื่อตรวจพบภัยคุกคาม Elite จะทำการปรับแก้ทันทีผ่านการกระทำรวมถึงการหยุดโปรเซส, การกักกัน, การกำจัดและการย้อนกลับของการเปลี่ยนแปลงที่เป็นอันตราย มันแชร์ข้อมูลภัยคุกคามแบบทันทีกับ GPN ซึ่งเป็นบริการข่าวกรองภัยคุกคามบนคลาวด์ของ Bitdefender ป้องกันการโจมตีที่คล้ายกันทั่วโลก

 

ปรับปรุงภัยคุกคามและการรับรู้

ความสามารถเฉพาะตัวของ GravityZone Elite ในการระบุและรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัยช่วยให้ผู้ดูแลระบบรู้ล่วงหน้าเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เป็นอันตราย เช่น การร้องขอระบบปฏิบัติการที่น่าสงสัย การกระทำที่หลีกเลี่ยงและการเชื่อมต่อไปยังศูนย์บัญชาการและศูนย์ควบคุม.

 

เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

เอเจนต์การรักษาความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ที่รวมในเอเจนต์เดียวของ Bitdefender ช่วยการใช้ทรัพยากรค่อมพิวเตอร์ของเอเจนต์ได้ การออกแบบแบบแยกส่วนให้ความยืดหยุ่นสูงสุดและช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดนโยบายความปลอดภัยได้ GravityZone ปรับแต่งแพ็คเกจการติดตั้งโดยอัตโนมัติและย่อขนาดเอเจนต์ให้น้อยที่สุด สถาปัตยกรรมที่ได้รับการพัฒนามาจากพื้นฐานของ Virtual และสถาปัตยกรรมความปลอดภัย-ของ Cloud GravityZone จัดให้มีแพลตฟอร์มการจัดการความปลอดภัยแบบครบวงจรเพื่อปกป้องสภาพแวดล้อมทาง physical, virtual และ cloud

 

HyperDetect™ ช่วยหยุดการโจมตีในระดับ Pre‑execution

GravityZone Elite มาพร้อมกับ HyperDetect ชั้นการป้องกันแบบ next-gen ในขั้นตอน pre-execution ที่ใช้โมเดลเฉพาะ, เทคนิคการวิเคราะห์พฤติกรรมที่ผ่านการฝึกอบรมเพื่อตรวจจับเครื่องมือแฮ็ค, exploits และ เทคนิคการปกปิดมัลแวร์ มันบล็อกการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งทั้งการป้องกันแบบดั้งเดิมและ next-genไม่สามารถป้องกันได้

 

  • Exploits
  • Powershell and other script based attacks
  • Phishing
  • File-less attacks
  • Ransomware
  • Unknown malware

แพลตฟอร์มการป้องกันคอมพิวเตอร์ next generation แบบหลายชั้นของ Bitdefender

ใช้สถาปัตยกรรมที่ปรับแต่งได้ซึ่งรวมถึงการควบคุมคอมพิวเตอร์, การป้องกันม การตรวจจับม การแก้ไขและการมองเห็น

PREVENT

HARDENING & CONTROL

Patch Management

Application Control

Full-Disk Encryption

Device Control

Web-Threat Protection

Firewall

DETECT

PRE-EXECUTION DETECTION

Signature & Cloud Lookup

Local & Cloud ML

EXECUTE

ON & POST-EXECUTION DETECTION

Anti-Exploit

Process Inspector

IVESTIGATE

AUTOMATIC ACTION

Access Blocking

Quarantine

Disinfection & Removal

Process Termination

Rollback

INFORM

REPORTING & ALERTING

Reports

Notifications

SIEM Integration

API Support

Resources

ข้อมูลของ GRAVITYZONE ENTERPRISE SECURITY

 

GravityZone สร้างขึ้นจากพื้นฐานของ virtualization และ cloud เพื่อส่งมอบบริการด้านความปลอดภัยทางธุรกิจไปยังคอมพิวเตอร์, mobile devices, virtual machine ทั้งใน cloud ขององค์กร, public cloud และอีเมลเซิร์ฟเวอร์.

โซลูชันโดยสรุปของการโจมตีแบบ FILELESS ATTACKS

Threat actors are shifting to fileless attacks. Experts would tell you that these attacks cannot be prevented by endpoint security solutions. At Bitdefender, we challenge ourselves to protect our customers against the full spectrum of threats – file-based and fileless malware.แฮกเกอร์ด้านภัยคุกคามกำลังเปลี่ยนการโจมตีเป็น fileless attacks ผู้เชี่ยวชาญจะบอกคุณว่าการโจมตีเหล่านี้ไม่สามารถป้องกันได้ด้วยโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์แบบปกติได้ ที่ Bitdefender เราท้าทายตัวเองในการปกป้องลูกค้าของเราจากภัยคุกคามเต็มรูปแบบ – มัลแวร์ปกติและมัลแวร์แบบ fileless

“GravityZone ทำงานได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นเรามีเวลามากขึ้นที่จะใช้ในการวางแผนและช่วยเหลือโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น.”

Rolland Kornblau, Director of IT, El Rancho Unified School District

 AV-TEST BEST PROTECTION 2017 ANNUAL AWARD

Bitdefender Endpoint Security ได้รับคะแนนสูงสุดในหมวดการป้องกันที่ดีที่สุดของ AV-TEST เนื่องจากความสามารถในการป้องกันและปิดกั้นมัลแวร์ทุกประเภทรวมถึงที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ด้วยสิทธิบัตรมากกว่าหกรายการที่เกี่ยวข้องกับอัลกอริธึม machine-learning สำหรับการตรวจจับมัลแวร์, ภัยคุกคามออนไลน์อื่นๆ, deep learning และเทคนิคการตรวจจับสิ่งผิดปกติที่มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับภัยคุกคามใหม่ๆและภัยคุกคามที่ไม่รู้จัก

การป้องกันและบริการที่สามารถเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้ป้องกันดีขึ้น

1

PATCH MANAGEMENT

ระบบที่ไม่ได้อัปเดตเพื่อปิดช่องโหว่จะถูกโจมตีจากมัลแวร์และอาจมีข้อมูลรั่วไหลได้ ดังนั้นเราแนะนำให้ทำการอัปเดต OS และ แอปพลิเคชันของคุณเพื่อปิดช่องโหว่เหล่าน้้น โดย Bitdefender มีบริการที่ช่วยจัดการได้ คือ GravityZone Patch Management ซึ่งสามารถทำได้ทั้งคอมพิวเตอร์ในสำนักงาน เซิฟเวอร์ และ เซิฟเวอร์เสมือนได้

Download Datasheet  >

2

GRAVITYZONE FULL DISK ENCRYPTION

GravityZone FDE ใช้สำหรับปกป้องข้อมูลฮาร์ดไดรฟ์ทั้งหมดในคอมพิวเตอร์โดยใช้กลไกการเข้ารหัสที่จัดทำโดย Windows (BitLocker) และ Mac (FileVault) GZ FDE ใช้ประโยชน์จากการเข้ารหัสอุปกรณ์ของระบบปฏิบัติการเพื่อให้มั่นใจว่ามันสามารถทำงานได้และประสิทธิภาพสูงสุด GZ FDE รวมอยู่ใน GravityZone Console และ Agent โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งเพิ่มเติมและไม่จำเป็นต้องติดตั้งเซิร์ฟเวอร์การจัดการคีย์ การใช้โครงสร้างและ Agent เดียวในการจัดการ FDE ช่วยให้การติดตั้งจากส่วนกลางทำได้ง่ายและใช้เวลาน้อยในการติดตั้ง
Read more  >

3

PROFESSIONAL SERVICES

ผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยคุณติดตั้งและกำหนดค่าโซลูชัน Bitdefender ของคุณเพื่อการปกป้องและประสิทธิภาพที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ บริการเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญตลอดกระบวนการดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าการเริ่มต้นจะราบรื่นและปราศจากปัญหา วิศวกรของ Bitdefender มีทักษะจะปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดและคำนึงถึงความต้องการทางธุรกิจของคุณในขณะที่ช่วยคุณติดตั้งโซลูชันความปลอดภัยได้

Specs

รายละเอียด / ความต้องการขั้นต่ำ

WORKSTATION/TABLET OPERATING SYSTEM REQUIREMENTS

Windows 10 November 2021 Update (21H2) Windows 10 May 2021 Update (21H1) Windows 10 October 2020 Update (20H2), Windows 10 May 2020 Update (20H1), Windows 10 November 2019 Update (19H2), Windows 10 May 2019 Update (19H1), Windows 10 October 2018 Update (Redstone 5), Windows 10 April 2018 Update (Redstone 4), Windows 10 Fall Creators Update (Redstone 3), Windows 10 Creators Update (Redstone 2), Windows 10 Anniversary Update (Redstone 1), Windows 10 November Update (Threshold 2), Windows 10 (RTM, version 1507), Windows 8.1, Windows 8, Windows 7

Windows 10 IoT Enterprise, Windows Embedded 8.1 Industry, Windows Embedded 8 Standard, Windows Embedded Standard 7, Windows Embedded Compact 7, Windows Embedded POSReady 7, Windows Embedded Enterprise 7

macOS Monterey (12.x) macOS Big Sur (11.x), macOS Catalina (10.15), macOS Mojave (10.14), macOS High Sierra (10.13), macOS Sierra (10.12)

SERVER OPERATING SYSTEM REQUIREMENTS

Ubuntu 14.04 LTS or higher, Red Hat Enterprise Linux / CentOS 6.0 or higher, SUSE Linux Enterprise Server 11 SP4 or higher, OpenSUSE Leap 42.x, Fedora 25 or higher, Debian 8.0 or higher, Oracle Linux 6.3 or higher, Amazon Linux AMI 2016.09 or higher

Windows Server 2022 Windows Server 2019 Core Windows Server 2019, Windows Server 2019 Core, Windows Server 2016, Windows Server 2016 Core, Windows Server 2012 R2, Windows Server 2012, Windows Small Business Server (SBS) 2011, Windows Server 2008 R2

WORKSTATION HARDWARE REQUIREMENTS

Minimum: 2.4 GHz single-core CPU Recommended: 1.86 GHz or faster Intel Xeon multi-core CPU
Memory: Minimum free RAM: 512 MB Recommended free RAM: 1 GB HDD space: 1.5 GB of free hard-disk space

SERVER HARDWARE REQUIREMENTS

Minimum: 2.4 GHz single-core CPU Recommended: 1.86 GHz or faster Intel Xeon multi-core CPU
Memory: Minimum free RAM: 512 MB Recommended free RAM: 1 GB HDD space: 1.5 GB of free hard-disk space

CONTROL CENTER HARDWARE REQUIREMENTS

T CPU: 4 vCPU with 2 GHz each
Minimum RAM memory: 6 GB recommended
40 GB of free hard-disk space
Internet access for updates and communication with remote and mobile endpoints.
GravityZone Control Center is delivered as a virtual appliance and is available in the following formats:
– OVA (compatible with VMware vSphere, View)
– XVA (compatible with Citrix XenServer, XenDesktop, VDI-in-a-Box)
– VHD (compatible with Microsoft Hyper-V)
Support for other formats and virtualization platforms may be provided on request.

คำถามพบบ่อย

BITDEFENDER GRAVITYZONE คืออะไร?

Bitdefender GravityZone เป็นโซลูชันความปลอดภัยระดับองค์กรของ Bitdefender สำหรับองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่มาก มันได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบด้วยสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ cloud ส่วนตัวที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว ว่าใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากโครงสร้างพื้นฐานแบบ virtualization GravityZone ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่อต้านมัลแวร์ที่ได้รับรางวัลและให้บริการแพลตฟอร์มการจัดการความปลอดภัยส่วนกลางสำหรับ physical, virtualization และ mobile

GravityZone เป็นโซลูชันทางธุรกิจที่คล่องตัวใช้วิธีการแบบองค์รวมทั้งหมด ไม่เพียงแต่ป้องกันไวรัสเท่านั้น แต่ยังเป็นโซลูชันระดับองค์กรที่ช่วยให้องค์กรบรรลุวัถตุประสงค์โครงการแบบ virtualization และรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ในขณะที่รักษาประสิทธิภาพของระบบและผลผลิตของผู้ใช้ 

ด้วยอัลกอริทึ่มระบบที่สามารถทดแทนกันได้และการแบ่งการทำงาน ทำให้ GravityZone สามารถปรับขนาดตามความต้องการเพื่อป้องกันคอมพิวเตอร์จากไม่กี่ร้อยเครื่องจนถึงหลักพันเครื่อง และให้การตรวจจับได้จากหน้าจอเดียวให้แก่ผู้ดูแลระบบในท่าทางความปลอดภัยขององค์กรภัยคุกคามทั่วโลกและแดชบอร์ดสำหรับบทบาทต่างๆภายในองค์กร

BITDEFENDER GRAVITYZONE แบบใหม่คืออะไร?

ตั้งแต่สถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มไปจนถึงบริการรักษาความปลอดภัย GravityZone จึงกลายเป็นโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์กรยุคใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อไอทีแบบใหม่ โซลูชั่นดังกล่าวได้รวมการรักษาความปลอดภัยของ virtualization ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมอย่างมากเข้ากับเทคโนโลยีการตรวจจับชั้นนำ

สภาพแวดล้อมขององค์กรที่ซับซ้อนต้องการโซลูชันความปลอดภัยแบบรวมที่ปรับแต่งให้เหมาะสมซึ่งรองรับสภาพแวดล้อมที่หลากหลายด้วยระบบและสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลาย GravityZone ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบการรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุดสำหรับภัยคุกคามและความเสี่ยงใหม่ของการเปิดเผยข้อมูล:

  • วิวัฒนาการแบบทวีคูณของมัลแวร์และความเป็นมืออาชีพผนวกเข้าด้วยกัน;
  • การโจมตีทางอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น;
  • การเพิ่มข้อมูลแบบทวีคูณ;
  • การบริโภคของผู้บริโภคและการรวมเข้าด้วยกันของอุปกรณ์และบริการ;
  • Cloud computing และเทคโนโลยี virtualization

 

ทั้งหมดนี้มีการเปลี่ยนแปลงด้านไอทีวิธีการจัดส่งและใช้ข้อมูลและวิธีการจัดหาแอปพลิเคชันและบริการ.

GravityZone นั้นถูกนำไปใช้เป็นโซลูชั่นคลาวด์ส่วนตัวที่ทำงานบนระดับ virtual และมันถูกบรรจุไว้เพื่อให้องค์กรต่างๆสามารถรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ด้านไอที ในขณะที่ช่วยลดภาระการบริหารลด TCO และปรับปรุงผลตอบแทนจากการลงทุน โซลูชันดังกล่าวจะลบข้อจำกัดในการปรับขนาดของโซลูชันดั้งเดิมตามสถาปัตยกรรมของไคลเอ็นต์เซิร์ฟเวอร์และฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (relational database)

การปรับปรุงยังคงดำเนินต่อไปในด้านบริการความปลอดภัย GravityZone ขยายและรวมบริการความปลอดภัยเข้ากับสภาพแวดล้อมแบบ virtual และอุปกรณ์มือถือ ดังนั้นในขณะที่ผู้ใช้คาดหวังว่าจะได้รับประสบการณ์แบบเดียวกันไม่ว่าจะใช้ข้อมูลบนพีซี, แล็ปท็อป, แท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน ความปลอดภัยของข้อมูลจะถูกรักษาไว้ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงภายในหรือระยะไกลจากเวิร์กสเตชันหรืออุปกรณ์พกพา ใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบปกติ หรือ virtualization

GravityZone Enteprise Security มาพร้อมกับ HyperDetect, การป้องกันหลายระดับแบบ next-gen ในขั้นตอน pre-execution ที่ใช้โมเดลเฉพาะ, เทคนิคการวิเคราะห์พฤติกรรมที่ได้รับการฝึกฝนเพื่อตรวจจับเครื่องมือแฮ็ค, exploit และเทคนิคปกปิดมัลแวร์

คุณหมายถึงอะไรในการรวมเรื่องความปลอดภัยสำหรับ Physical, Virtualized และ Mobile ไว้ด้วยกัน?

GravityZone รวมทุกอย่างเข้าด้วยกันด้วยการออกแบบและมุ่งหวังที่จะครอบคลุมข้อกำหนดด้านความปลอดภัยทั้งหมดในโซลูชันเดียว ปัจจุบันมันรวมบริการรักษาความปลอดภัยหลักและให้การจัดการจุดเดียวสำหรับการรักษาความปลอดภัยของ physical, virtualized และ mobile การพัฒนาในอนาคตจะรวมบริการความปลอดภัยใหม่ๆเข้ากับ GravityZone เช่นความปลอดภัยสำหรับอีเมลและการทำงานเกี่ยวกับเอกสารและจะเพิ่มการปรับปรุงสำหรับบริการและการสนับสนุนสำหรับแพลตฟอร์มอื่นๆ

เราแตกต่างจากโซลูชันอื่นที่เรารวมแต่ละส่วนเข้ากับสถาปัตยกรรมแบบเก่าและเสริมเทคโนโลยีจากภายนอกและนำมันมาผลสรวมเข้าด้วยกัน Bitdefender GravityZone ได้รับการออกแบบมาตั้งแต่แรกเพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มการจัดการความปลอดภัยแบบครบวงจรสำหรับ physical, virtualized และ mobile การออกแบบแบบแยกส่วนช่วยให้บริการรักษาความปลอดภัยมีความยืดหยุ่นและปรับแต่งตามความเหมาะสม โซลูชันประกอบด้วยส่วนประกอบแบบรวมต่อไปนี้:

  • GravityZone Control Center – แพลตฟอร์มการจัดการที่ให้การจัดการความปลอดภัยจุดเดียวทั่วทั้งองค์กร
  • Security for Endpoints – ปกป้อง Windows เวิร์กสเตชันและเซิร์ฟเวอร์ 
  • Security for Virtualized Environments – protects virtualized Windows and Linux guest systems, running on VMware, Citrix, Microsoft or any other virtualization platformปกป้อง Windows แบบ virtualization และ Linux guest, ทำงานบน VMware, Citrix, Microsoft หรือแพลตฟอร์ม virtualization อื่นๆ
  • Security for Mobile Devices – ช่วยให้สามารถใช้งานอุปกรณ์ของตัวเองมาใช้ในองค์กร (BYOD) ได้อย่างปลอดภัยด้วยการติดตั้งและควบคุมความปลอดภัยของอุปกรณ์มือถือได้อย่างง่ายดาย.
บริการ GRAVITYZONE SVE จำเป็นต้องใช้หรือไม่ หรือ คุณสามารถเลือกใช้บริการด้านความปลอดภัยได้หรือไม่?

GravityZone แบ่งแยกตามส่วนต่างๆแบบ 100% ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเลือกบริการที่คุณต้องการให้ใช้สิทธิ์พร้อมจำนวนหน่วยที่ต้องการต่อหนึ่งหน่วย.

แม้ว่า GravityZone จะเป็น virtual appliance การติดตั้งนั้นไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งาน Security for Virtualized Environments (SVE) อย่างไรก็ตามหากคุณเรียกใช้หรือวางแผนที่จะปรับใช้โครงการแบบ virtualization เราขอแนะนำให้คุณใช้งาน Security for Virtualized Environments (SVE)

ด้วย GravityZone คุณจะได้รับประโยชน์จากการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพและปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจากสองด้าน ด้านหนึ่งคือภาระการบริหารจัดการที่ลดลงเนื่องจากการจัดการแบบรวมศูนย์และผลประโยชน์ด้านสถาปัตยกรรมด้วยการติดตั้งทั้งหมดอย่างง่ายดายของ GravityZone virtual appliance, ระบบการทดแทนกันได้ และ กลไกการขนาดขนาด, และอีกด้านหนึ่งคือบริการรักษาความปลอดภัยแบบ virtualization ของ SVE ทำให้คุณบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจของคุณเกี่ยวกับโครงการแบบ virtualizaion และตระหนักถึงศักยภาพการลงทุนของคุณอย่างเต็มที่

GRAVITYZONE รองรับสภาพแวดล้อมแบบ virtualization หลายๆแบบในเวลาเดียวกันได้หรือไม่?

ตัวอย่างเช่น บางครั้งเราต้องจัดเตรียมการรักษาความปลอดภัยสำหรับ VMs ที่ทำงานบน VMware ESXi และ Microsoft Hyper-V ในเวลาเดียวกัน.

GravityZone สามารถรองรับได้ ด้วยบริการ Security for Virtualized Environments ของ GravityZone คุณสามารถจัดการ virtualization ได้ทุกประเภทจากการจัดการเพียงจุดเดียว GravityZone Control Center ผสานรวมกับ VMware vCenter และ Citrix XenCenter และยังสนับสนุนแพลตฟอร์ม virtualization อื่นๆอีกมากมายเช่น Microsoft Hyper-V, KVM, RedHat Enterprise Virtualization หรือ Oracle Virtualization

ถ้าคุณต้องการทดสอบ GravityZone Security for Endpoints, กรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อทดสอบ: